ในยุคที่โลกดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างก้าวกระโดด การมีสินค้าหรือบริการที่ยอดเยี่ยมเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไปที่จะทำให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นและสร้างยอดขายได้อย่างที่ต้องการ ลองนึกถึง PopPlus ป๊อปคอร์นเพื่อสุขภาพ ที่เราได้พูดถึงกันไปแล้ว แม้ว่า PopPlus จะมีจุดเด่นเรื่องรสชาติที่อร่อยและดีต่อสุขภาพ ทว่าหากไม่มีการโปรโมทที่ถูกที่ถูกทาง สินค้าชั้นเยี่ยมนี้ก็อาจถูกกลืนหายไปในการแข่งขันที่ดุเดือดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ
การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายกลุ่มคนที่รักสุขภาพไม่ใช่เรื่องง่าย และการเปลี่ยนผู้สนใจให้กลายเป็นลูกค้าที่พร้อมจะหยิบ PopPlus ใส่ตะกร้าช้อปปิ้งนั้นยิ่งต้องอาศัยกลยุทธ์ที่แม่นยำและ Tools ที่ทรงพลังจริงๆ ซึ่งเหล่านี้กลายเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ e-commerce ในวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนแพลตฟอร์มหลักที่ผู้บริโภคชาวไทยใช้เวลาอยู่ด้วยมากที่สุดอย่าง TikTok ซึ่งเป็นแหล่งรวมความบันเทิงและเทรนด์ใหม่ๆ Shopee และ Lazada ซึ่งเป็นสมรภูมิแห่งการช้อปปิ้งออนไลน์
การวางแผนและตั้งค่าแคมเปญโฆษณาบนช่องทางเหล่านี้อย่างเหมาะสมกับสินค้าหรือบริการนั้นๆ (ในเคสนี้คือ PopPlus) จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะปลดล็อกศักยภาพทางการตลาดและนำพาธุรกิจของคุณไปสู่เป้าหมายยอดขายที่วางไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
อย่างไรก็ตาม ความซับซ้อนของการตั้งค่าและการบริหารจัดการโฆษณาบนหลายแพลตฟอร์มพร้อมกัน อาจเป็นความท้าทายสำหรับหลายๆ ธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำสำหรับ PopPlus เช่น กลุ่มคนรักสุขภาพที่ชอบทานขนม การสร้างสรรค์เนื้อหาโฆษณาที่ดึงดูดใจซึ่งต้องเข้ากับสไตล์ของ PopPlus การจัดสรรงบให้เหมาะสม หรือการติดตามและวิเคราะห์ผลลัพธ์เพื่อปรับปรุงแคมเปญอย่างต่อเนื่อง
หลายครั้งที่ธุรกิจขนาดเล็กอย่าง PopPlus อาจพลาดโอกาสสำคัญไปเพราะขาดคู่มือที่ชัดเจนและเป็นระบบ แต่ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะเราเข้าใจถึงความท้าทายนี้ดี และเพื่อช่วยให้คุณสามารถนำพาแคมเปญโฆษณาของคุณไปสู่ความสำเร็จได้ตั้งแต่เริ่ม ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันยอดขาย PopPlus หรือสินค้าอื่นๆ ของคุณ เราได้รวบรวมและจัดทำเช็กลิสต์ ที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนสำคัญ ตั้งแต่การวางแผนเบื้องต้น ไปจนถึงการตั้งค่า และดูแลแคมเปญบนแพลตฟอร์มยอดนิยมทั้งสามแพลตฟอร์มนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าเงินทุกบาทที่คุณลงทุนไป จะถูกใช้ไปอย่างมีประสิทธิภาพ และนำมาซึ่งยอดขายที่เติบโตอย่างยั่งยืน
ว่าแล้วก็ มาไล่ดูกันเลยว่า checklist มีอะไรบ้างที่คุณต้องรู้และทำตาม
1 การเตรียมตัวก่อนเริ่มแคมเปญ (สำหรับทุกแพลตฟอร์ม)
ไม่ว่าคุณจะลงโฆษณาบนแพลตฟอร์มใดก็ตาม ขั้นตอนต่อไปนี้ถือว่าสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้คุณไม่หลงทางและใช้เงินได้อย่างคุ้มค่า
- 1.1 กำหนดเป้าหมายแคมเปญให้ชัดเจน
- เพิ่มการรับรู้ (Awareness)
- เพิ่มผู้เข้าชม (Traffic)
- เพิ่มยอดขาย/Conversion (Sales/Lead)
- เพิ่มผู้ติดตาม (Followers)
- 1.2 ระบุกลุ่มเป้าหมายของคุณ
- อายุ เพศ สถานที่ ความสนใจ พฤติกรรมการซื้อ
- ปัญหาที่ลูกค้าเจอ และสินค้า/บริการของคุณช่วยได้อย่างไร
- 1.3 กำหนดงบโฆษณา
- งบรวมทั้งหมด
- งบประมาณต่อวัน/ต่อแคมเปญ (แยกแต่ละแพลตฟอร์ม)
- กำหนด ROI (ผลตอบแทนจากการลงทุน) ที่คาดหวัง
- 1.4 เตรียมสินค้าหรือโปรโมชั่นพิเศษ
- สินค้าดาวเด่นที่ต้องการผลักดัน
- ส่วนลด โค้ดส่วนลด หรือข้อเสนอพิเศษที่น่าดึงดูด
- สต็อกสินค้าพร้อมจัดส่ง
- 1.5 เตรียมหน้า Landing Page/หน้าร้านค้าให้พร้อม
- ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลสินค้า ราคา รูปภาพ
- ตรวจสอบความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ/หน้าร้าน
- ปุ่ม CTA ชัดเจน (เช่น ซื้อเลย เพิ่มลงรถเข็น)
2 การตั้งค่าโฆษณาบน TikTok (เน้น Video Ads)

แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่มี creative ที่เน้นให้ความบ้นเทิงกับกลุ่มเป้าหมายเป็นสำคัญ
- 2.1 สร้างบัญชีและ Tool พื้นฐาน
- มี TikTok Business Center และ TikTok Ad Account
- ติดตั้ง TikTok Pixel บนเว็บไซต์ของคุณ (หากโฆษณาออกนอก TikTok) เพื่อติดตาม Conversion
- 2.2 เลือกประเภทแคมเปญตามเป้าหมาย
- Conversion (เน้นยอดขาย/Action บนเว็บหรือแอป) – แนะนำสำหรับ Sales
- Traffic (เน้นพาคนเข้าเว็บไซต์/หน้าร้าน)
- Reach (เน้นการเข้าถึงจำนวนมาก)
- 2.3 กำหนดกลุ่มเป้าหมาย
- Demographics อายุ เพศ สถานที่ ภาษา
- Interests ความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย (เช่น แฟชั่น อาหาร ออกกำลังกาย)
- Behaviors พฤติกรรมการรับชม/ปฏิสัมพันธ์บน TikTok (เช่น ดูวิดีโอจนจบ กดไลก์ กดแชร์)
- Custom Audiences (จาก Pixel, รายชื่อลูกค้า, ผู้ที่เคยมีส่วนร่วมกับบัญชีเรา)
- Lookalike Audiences (สร้างกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกับ Custom Audience)
- 2.4 กำหนดงบและรูปแบบการ Bidding
- งบประมาณต่อวัน (Daily Budget) หรือตลอดแคมเปญ (Lifetime Budget)
- Optimization Goal: เลือก Conversion (เพื่อให้ระบบหาคนที่ซื้อ)
- Bidding Strategy oCPC (Optimized Cost Per Click) เพื่อให้ TikTok หาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
- 2.5 เตรียมครีเอทีฟโฆษณา
- วิดีโอแนวตั้ง (9:16) คุณภาพสูง: ความยาว 15-60 วินาที (แนะนำ 15-30 วิ)
- เนื้อหาที่ดึงดูดตั้งแต่ 3 วินาทีแรก: ต้องหยุดสายตาคนดูได้
- ใช้เพลง/เสียงที่กำลังเป็นกระแส: เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึง
- แสดงสินค้า/ประโยชน์ชัดเจน: บอกวิธีแก้ปัญหาหรือข้อดีของสินค้า
- ใส่ CTA ที่ชัดเจน: เช่น ซื้อเลย เรียนรู้เพิ่มเติม
- ใส่ Text Overlay/คำบรรยายใต้ภาพให้เข้าใจง่าย (แม้ไม่มีเสียง)
- 2.6 ติดตามผล
- ตรวจดูผลลัพธ์ของ ads ผ่าน TikTok Ads Manager
- ดู Conversion Rate, CPA (Cost Per Acquisition), ROI
3 การตั้งค่าโฆษณาบน Shopee (เน้น E-commerce Ads)

หัวใจหลักของแพลตฟอร์มอย่าง Shopee ควรมุ่งเน้นการค้นหาและการค้นพบสินค้า
- 3.1 เข้าสู่ระบบ Shopee Seller Centre
- ไปที่เมนู โฆษณาของฉัน
- 3.2 เลือกประเภทโฆษณาที่เหมาะสำหรับยอดขาย
- โฆษณาค้นหาสินค้า (Product Search Ads) แสดงผลเมื่อลูกค้าค้นหา Keyword ที่กำหนด (เหมือน Google Ads สำหรับ Shopee)
- โฆษณา Discovery (Discovery Ads) แสดงผลในส่วน “สินค้าแนะนำประจำวัน” หรือ “สินค้าที่เกี่ยวข้อง” เพื่อเพิ่มการมองเห็น
- (พิจารณา โฆษณาร้านค้า ถ้าต้องการเพิ่มการรับรู้แบรนด์ร้านค้าโดยรวม)
- 3.3 เลือกสินค้าที่จะโปรโมท
- เลือกสินค้าที่มีรีวิวดี สต็อกเยอะ ราคาแข่งขันได้ และมีโปรโมชั่น
- ตรวจสอบรูปภาพสินค้า คำบรรยาย หมวดหมู่ ให้ถูกต้องและน่าสนใจ
- 3.4 กำหนดกลุ่มเป้าหมาย/ Keywords (สำหรับโฆษณาค้นหาสินค้า)
- ค้นหา Keyword ที่เกี่ยวข้อง: ใช้เครื่องมือแนะนำ Keyword ใน Shopee Ads
- ประเภท Keyword: Exact Match (ตรงเป๊ะ) Broad Match (ครอบคลุม)
- Negative Keywords: คีย์เวิร์ดที่ไม่ต้องการให้โฆษณาแสดงผล
- 3.5 กำหนดงบและราคาการ Bidding
- งบประมาณต่อวัน หรือตลอดแคมเปญ
- ราคาประมูลต่อคลิก (Bid Price per Click): เริ่มต้นตามคำแนะนำและค่อยๆ ปรับ
- Auto-Bidding: (ให้ระบบปรับประมูลอัตโนมัติ) หรือ Manual Bidding (ประมูลเอง)
- 3.6 ตรวจสอบความพร้อมของหน้าร้าน/สินค้า
- มีรูปภาพและวิดีโอสินค้าที่คมชัดและหลากหลาย
- รายละเอียดสินค้าครบถ้วน ชัดเจน ประโยชน์ของสินค้า
- โปรโมชั่น ส่วนลด หรือของแถมที่ดึงดูดใจ
- คะแนนร้านค้าและรีวิวที่ดี
- 3.7 ติดตามผล
- ตรวจผลลัพธ์ผ่าน Shopee Ads Dashboard (ยอดคลิก ยอดขาย ค่าใช้จ่าย)
- ดูค่า ROAS (Return On Ad Spend)
4 การตั้งค่าโฆษณาบน Lazada (เน้น E-commerce Ads)

อีกหนึ่งแพลตฟอร์มยักษ์ Lazada จะเน้นการมองเห็นและการเข้าถึงลูกค้า
- 4.1 เข้าสู่ระบบ Lazada Seller Centre
- ไปที่เมนู Lazada Sponsored Solutions
- 4.2 เลือกประเภทโฆษณาที่เหมาะสำหรับยอดขาย
- Sponsored Search (โฆษณาค้นหา) แสดงผลเมื่อลูกค้าค้นหา Keyword (คล้าย Shopee)
- Sponsored Products (โฆษณาสินค้า) แสดงผลในหน้าหมวดหมู่ หน้าสินค้าคล้ายกัน หรือหน้ารายการสินค้าแนะนำ (คล้าย Discovery Ads)
- (พิจารณา Sponsored Affiliates / Sponsored Display สำหรับการขยายการเข้าถึงนอกแพลตฟอร์ม)
- 4.3 เลือกสินค้าที่จะโปรโมท
- เลือกสินค้าที่โดดเด่น มีสต็อกเพียงพอ และรีวิวดี
- ตรวจสอบรูปภาพ ชื่อสินค้า คำบรรยาย และราคาให้ดึงดูด
- 4.4 กำหนดกลุ่มเป้าหมาย/Keyword (สำหรับ Sponsored Search)
- ค้นหา Keyword ที่เกี่ยวข้อง: ใช้เครื่องมือ Keyword Planner ของ Lazada
- ประเภท Keyword: Exact Match, Phrase Match, Broad Match
- Negative Keywords: คำที่ไม่ต้องการให้โฆษณาแสดง
- 4.5 กำหนดงบและราคา Bidding
- งบประมาณรายวัน หรือตลอดแคมเปญ
- ราคาประมูลต่อคลิก (Bid Price) ตั้งค่าเริ่มต้นและปรับตามประสิทธิภาพ
- Smart Bid (ให้ระบบปรับประมูลอัตโนมัติ) หรือ Manual Bid (ประมูลเอง)
- 4.6 ตรวจสอบความพร้อมของหน้าร้าน/สินค้า
- มีรูปภาพสินค้าและวิดีโอที่ชัดเจนและครบถ้วน
- คำบรรยายสินค้าละเอียด ชัดเจน ครบถ้วน รวมถึงจุดเด่น
- โปรโมชั่น คูปอง หรือส่วนลดที่มองเห็นได้ชัดเจน
- คะแนนร้านค้าและรีวิวสินค้าที่ดี
- 4.7 ติดตามผล
- ตรวจสอบผลลัพธ์ผ่าน Lazada Sponsored Solutions Dashboard (คลิก ยอดขาย ค่าใช้จ่าย ROAS)
5 การดูแลและปรับปรุงแคมเปญ (Monitor & Optimization)
แคมเปญโฆษณาไม่ใช่แค่ตั้งแล้วปล่อย ต้องหมั่นติดตามดูแลและปรับจูนตลอดระยะเวลาของแคมเปญ
- 5.1 ติดตามผลลัพธ์รายวัน/รายสัปดาห์
- ตรวจสอบงบประมาณที่ใช้ไป
- จำนวนคลิก การเข้าถึง ยอดขาย และ ROI
- 5.2 ปรับครีเอทีฟโฆษณาโดยดูจากผลลัพธ์ที่ได้
- หากโฆษณาไม่ดึงดูด ลองเปลี่ยนรูปภาพ วิดีโอ ข้อความ หรือ CTA
- ทำ A/B Testing เพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุด
- 5.3 ปรับกลุ่มเป้าหมาย/keywords
- หาก Conversion ไม่ดี ลองปรับลดขนาดกลุ่มเป้าหมายให้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
- เพิ่ม Keyword ใหม่ๆ หรือปรับราคาประมูล Keyword ที่มีประสิทธิภาพสูง
- เพิ่ม Negative Keywords เพื่อตัดการแสดงผลที่ไม่เกี่ยวข้อง
- 5.4 ปรับงบ/ราคา Bidding
- หากแคมเปญมีประสิทธิภาพดี ลองเพิ่มงบประมาณเพื่อขยายผล
- หากงบประมาณหมดเร็วเกินไป หรือ Conversion แพง ลองปรับลด ราคา bidding
- 5.5 ทดสอบใหม่ และเรียนรู้จากสิ่งที่ได้ปรับ
- ลองใช้ Ad Format ใหม่ๆ หรือฟีเจอร์ใหม่ๆ ของแต่ละแพลตฟอร์ม
- จดบันทึกสิ่งที่ได้ผลและไม่ได้ผล เพื่อนำไปปรับใช้ในแคมเปญถัดไป
การทำโฆษณาบน e-commerce แพลตฟอร์มอย่าง TikTok Shopee และ Lazada เปรียบเสมือนการเดินทางที่ไม่สิ้นสุด เพราะไม่มีสูตรสำเร็จที่ตายตัว แต่เป็นกระบวนการของการเรียนรู้ การได้ทดลอง และการปรับจูนอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้น Checklist นี้จึงเป็นเหมือนแผนที่ที่จะช่วยนำทางให้คุณสามารถตั้งค่า และบริหารจัดการแคมเปญโฆษณาได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการใช้ Data ที่ได้จากการติดตามผลมาเป็น Tools ในการตัดสินใจในชั้นตอนต่อไป อย่ากลัวที่จะลองผิดลองถูกกับแต่ละเมนูยิบย่อยที่คุณเห็น และหมั่นอัปเดตความรู้เกี่ยวกับ feature ใหม่ๆ ของแต่ละแพลตฟอร์มอยู่เสมอ เพราะโลกดิจิทัลโดยเฉพาะ e-commerce นี้เปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วมากกก การปรับตัวให้ทันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ PopPlus และธุรกิจของคุณสามารถสร้างยอดขายเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในระยะยาว