ยิงแอดยังไงให้คุ้มทุกบาท? เข้าใจระบบ Bidding ก่อนเริ่มลงมือ

หลายคนลงโฆษณาไปเป็นพันเป็นหมื่น แต่ไม่เคยรู้เลยว่าระบบ Bidding คืออะไร จ่ายตอนไหน วัดผลยังไง และที่สำคัญ จะเลือกแบบไหนให้คุ้มกับเป้าหมายที่ตั้งไว้?

โพสต์นี้จะพาคุณเข้าใจ ประเภทของ Bidding แบบทีละขั้น ไม่ต้องมีพื้นฐานก็อ่านรู้เรื่อง พร้อมตัวอย่างที่ใช้ได้จริง และเทคนิคเลือก Bidding ให้เหมาะกับแคมเปญของคุณ เพราะยิง Ads ให้คุ้ม ไม่ได้อยู่ที่จ่ายแพงที่สุด แต่อยู่ที่การเลือก objective ให้ถูก และวัดผลให้เป็นต่างหาก

---

Bidding คืออะไร

Bidding หรือระบบการประมูลโฆษณา คือวิธีที่แพลตฟอร์มอย่าง Facebook / Google หรือ TikTok ใช้ตัดสินใจว่า Ads ของใครจะถูกแสดงก่อน และจ่ายเงินเท่าไหร่ต่อการแสดงผลหรือต่อแอคชั่นหนึ่งอย่าง เช่น ต่อคลิก หรือต่อการลงทะเบียนหนึ่งครั้ง ในแต่ละครั้งที่มีคนดูเนื้อหาบนแพลตฟอร์ม จะเกิดการประมูลขึ้นเบื้องหลังโดยอัตโนมัติ ระหว่างผู้ลง Ads ทุกคนที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน

สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ การประมูลนี้ไม่ได้วัดแค่ใครยื่นราคาสูงสุดเท่านั้น แต่ยังพิจารณาจากคุณภาพของ Ads ความเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย และโอกาสที่ผู้ชมจะมี Engagement ด้วย Ads ที่คุณภาพดีและตรงกับสิ่งที่คนกำลังหาอยู่ แม้จะไม่ได้ยื่นราคาสูงสุด ก็สามารถชนะการประมูล และแสดงผลได้ก่อนคนอื่น

การเข้าใจระบบ Bidding จึงสำคัญมาก เพราะมันคือรากฐานของการยิง Ads ที่จ่ายน้อยแต่ได้ผลลัพธ์ดี และไม่เสียเงินไปกับคนที่ไม่สนใจ Ads เราตั้งแต่แรก

---

ประเภทของ Bidding

การเลือกประเภท Bidding สำคัญกว่าที่หลายคนคิด เพราะมันคือการกำหนดเงื่อนไขการจ่ายเงิน และวัดผลลัพธ์ของแคมเปญทั้งหมด

เลือกผิด หมายถึง ยิงเปลืองแต่ไม่ปัง

เลือกถูก คุณก็จะยิงประหยัด แต่ได้ยอดตรงเป้า

มาเข้าใจแต่ละประเภทง่ายๆ ทีละแบบกันครับ

 

วิธีเลือกประเภท Bidding ให้เหมาะกับเป้าหมาย

เลือกวิธีที่คุณอยากให้ระบบคิดค่าใช้จ่ายตามเป้าหมายที่คุณต้องการ

 

แล้วจะวัดผลยังไงว่าประมูลได้คุ้มไหม?

ดู CTR
ถ้า CTR สูง นั่นคือ Ads ของคุณดึงดูดดี และมีโอกาสที่จะได้ CPC หรือ CPA ต่ำ

ดู Conversion Rate
ถ้าคลิกแล้วซื้อจริง แสดงว่า Ads นั้น relevant กับกลุ่มเป้าหมายของคุณ

ดู Cost per Conversion
วิเคราะห์ว่าจ่ายกี่บาทถึงได้ลูกค้าหนึ่งคน แล้วคุ้มกับมูลค่าลูกค้าไหม (Customer Lifetime Value)

---

วิธีตั้งค่า Bidding

หลายคนคิดว่าการตั้งค่า Bidding ต้องมีความรู้เทคนิคหรือมีประสบการณ์เยอะถึงจะทำได้ถูกต้อง แต่ความจริงคือมือใหม่ก็สามารถเริ่มต้นได้ไม่ยาก หากเข้าใจหลักการพื้นฐานอย่างการกำหนด objective ให้ชัด เลือกประเภท Bidding ที่ตรงกับวัตถุประสงค์ จัดสรรงบประมาณให้เหมาะสม และเลือกวิธีประมูลที่สอดคล้องกับระดับความชำนาญ

สิ่งสำคัญคืออย่ากลัวการเริ่มต้น เพราะทุกแพลตฟอร์มมีระบบช่วยปรับแต่งและทดลองอยู่แล้ว หากเริ่มจากโครงสร้างที่ถูกต้อง คุณจะค่อยๆ เข้าใจระบบมากขึ้น และสามารถยิง Ads ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แม้เป็นครั้งแรกที่ลอ

กำหนดวัตถุประสงค์โฆษณา
ตัวอย่าง

• • ต้องการคนเข้าเว็บไซต์ เลือก CPC
  • ต้องการคนซื้อสินค้าจริง เลือก CPA
  • ต้องการให้คนรู้จักแบรนด์ เลือก CPM

เลือกประเภท Bidding ให้เหมาะกับเป้าหมาย
อย่าตั้งไปเรื่อยๆ เพราะประเภท Bidding มีผลต่อวิธีคิดค่าใช้จ่ายทั้งหมด

กำหนดงบประมาณโฆษณา

• • เริ่มจากงบรายวัน เช่น 300–500 บาท
  • หรือกำหนดงบรวมแคมเปญ เช่น 5,000 บาทต่อเดือน ระบบจะพยายามใช้เงินให้ตรงกับ Bidding ที่คุณตั้ง

เลือกวิธีประมูล (Bidding strategy)

• • Automatic คือ ปล่อยให้แพลตฟอร์ม Optimize ให้ เหมาะกับมือใหม่
  • Manual คือ ตั้งราคาเอง เช่น อยากจ่ายไม่เกิน 5 บาทต่อคลิก เหมาะกับคนที่มีประสบการณ์

วิธีวัดผลว่ายิง Ads แบบไหนคุ้ม?

การวัดผลไม่ใช่แค่ดูว่ายอด Like เยอะไหม หรือมีคอมเมนต์กี่คน แต่ต้องเจาะลึกไปถึงผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับ objective ที่คุณตั้งไว้ตั้งแต่ต้น เช่น ถ้าคุณอยากเพิ่มยอดขาย ก็ควรดู Conversion Rate และต้นทุนต่อการซื้อหนึ่งครั้ง (Cost per Conversion) หรือถ้า objective คืออยากให้คนรู้จักแบรนด์ ก็ควรดู Reach หรือ Impressions และ CPM ว่าคุ้มค่าแค่ไหนต่อการเข้าถึงคน 1,000 คน เป็นต้น ยิ่งคุณเก็บข้อมูลและเปรียบเทียบผลลัพธ์ได้ละเอียดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะช่วยให้ตัดสินใจปรับแผนได้แม่นยำขึ้น

ตัวอย่าง

ยิงโฆษณาแบบ CPA งบ 1,000 บาท

ได้ยอดขาย 10 ออเดอร์ = ต้นทุนต่อ Conversion = 100 บาท

ถ้ากำไรต่อออเดอร์มากกว่า 100 บาท = คุ้ม

สรุปสั้นๆ

• CPC = อยากได้คลิกเยอะๆ
• CPM = อยากให้คนเห็นเยอะๆ
• CPA = อยากได้ยอดขายจริงๆ

เคล็ดลับสำหรับมือใหม่

• ทดลองหลายแบบ แล้ววัดผลว่าแบบไหนถูก ดี และได้ผลจริง
• หมั่นเปรียบเทียบ Cost per Result ของแต่ละประเภท Bidding
• อย่าลืมติด Pixel หรือ Tracking ให้ครบ เพื่อให้วัดผลได้แม่นยำ
• ถ้างบน้อย อย่าเพิ่งเล่น CPA เพราะระบบต้องใช้ข้อมูลเยอะจึงจะ Optimize ได้ดี

---

ปิดท้าย

• ระบบ Bidding ไม่ได้ให้คนที่จ่ายแพงที่สุดชนะเสมอไป แต่ให้คนที่ยิงได้คุณภาพดีและคุ้มชนะ
• เลือกประเภท Bidding ให้เหมาะกับสิ่งที่คุณต้องการให้คนทำ
• วัดผลให้เป็น แล้วปรับเรื่อยๆ เพื่อให้คุ้มค่าทุกบาทที่จ่ายไป

 

การเข้าใจระบบ Bidding ไม่ใช่เรื่องของเทคนิคที่ซับซ้อน แต่เป็นพื้นฐานที่ทุกคนที่ยิง Ads ควรรู้ เพราะมันคือกลไกที่ตัดสินว่าเงินทุกบาทของเราจะเปลืองหรือคุ้ม เมื่อคุณรู้ว่าควรเลือกประเภท Bidding แบบไหนให้สอดคล้องกับ objective รู้จักตั้งงบ วัดผล และปรับให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ โฆษณาจะกลายเป็นเครื่องมือที่วัดผลได้จริง และสร้างยอดขายได้ชัดเจน เริ่มต้นจากการทำความเข้าใจสิ่งเล็กๆ เหล่านี้ คุณจะค่อยๆ ยิง Ads ได้แม่นขึ้น ประหยัดขึ้น และเห็นผลชัดเจนขึ้นแน่นอน